คลีนพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง เคลียร์ โรคใบด่าง มันสำปะหลัง

Agri+

คลีนพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง เคลียร์ โรคใบด่างมันสำปะหลัง

โรคใบด่าง มันสำปะหลัง กรมวิชาการเกษตร ผนึกกำลังภาครัฐและเอกชน  คลีนพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง 50 จังหวัดทั่วประเทศ เคลียร์ โรคใบด่าง ก่อนลามเข้าประเทศ  มั่นใจเอาอยู่  ปูพรมสำรวจเข้มข้นพื้นที่เสี่ยงโรคบริเวณแนวชายแดนไทย กัมพูชา  พร้อมเปิดสายด่วนชี้จุดต้องสงสัยโรคใบด่างระบาด

ดร.เสริมสุข   สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า  โรคใบด่างมันสำปะหลัง มีสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส Sri Lankan cassava mosaic virus เป็นโรคที่มีความสำคัญทำให้ผลผลิตเสียหายเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เกษตรกรไม่สามารถเก็บผลผลิตได้  ที่สำคัญสามารถเข้าทำลายมันสำปะหลังได้ทุกระยะการเจริญเติบโต ลักษณะอาการที่พบคือใบแสดงอาการด่างเหลือง และลดรูป ต้นแคระแกร็น จึงมีความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้ศัตรูพืชร้ายแรงเข้ามาระบาดทำความเสียหายให้กับผลผลิตของเกษตรกรและอาจส่งผลถึงเศรษฐกิจของประเทศ

ดร.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร
ดร.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

ตั้งแต่ปี 2558-2561 กรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินการเฝ้าระวัง โรคใบด่าง มันสำปะหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้เข้ามาในประเทศไทย โดยเข้มงวดการนำเข้ามันสำปะหลังบริเวณชายแดนไทย- กัมพูชา และจัดทำมาตรการด้านวิชาการ ด้านกฎหมาย และแผนปฏิบัติการฉุกเฉินในกรณีเกิดการแพร่ระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังขึ้นในประเทศไทย  พร้อมทั้งสร้างการรับรู้โดยประชุมชี้แจงกับผู้เกี่ยวข้อง และดำเนินการสำรวจและเฝ้าระวังโรคใบด่างมันสำปะหลังในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศจำนวน 50 จังหวัด รวมพื้นที่ 2,668,000 ไร่อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง  โดยเฉพาะจังหวัดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ผลการดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 -2560 ไม่พบการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังในประเทศไทย

อาการใบด่างต้องสงสัย โรคใบด่าง มันสำปะหลัง
อาการใบด่างต้องสงสัย โรคใบด่าง มันสำปะหลัง
อาการใบด่างต้องสงสัย
อาการใบด่างต้องสงสัย
อาการใบด่างต้องสงสัย
อาการใบด่างต้องสงสัย

            อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนสิงหาคม 2561 ได้สำรวจพบต้นมันสำปะหลังแสดงอาการใบด่างต้องสงสัยในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง ของเกษตรกร ในอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และ อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 8 ราย พื้นที่ 68 ไร่  ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสใบด่างมันสำปะหลังต้องสงสัยกลุ่มไวรัส Begomovirus  ซึ่งพบได้ทั่วไปไม่มีความรุนแรงและไม่ได้ทำลายผลผลิตในแปลงปลูกมันสำปะหลัง   แต่เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับขบวนการผลิตมันสำปะหลังของประเทศไทย   กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการทำลายแปลงมันสำปะหลังที่พบอาการต้องสงสัยทั้งหมดตามแผนปฏิบัติการฉุกเฉินที่กำหนดไว้   จากการสอบถามเกษตรกรพบว่านำท่อนพันธุ์มาจากจังหวัดนครราชสีมา  ทั้งนี้จากข้อสังเกตประเทศไทยไม่เคยมีการรายงานการพบโรคใบด่างมันสำปะหลัง ดังนั้นอาจมีการลักลอบนำเข้าท่อนพันธุ์หรือส่วนขยายพันธุ์เข้ามา ซึ่งผู้ลักลอบมีความผิดตามพระราชบัญญัติกักพืช ห้ามนำเข้า ยกเว้นหัวมันสดและมันเส้น โดยมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทำลายแปลง
ทำลายแปลง

“โรคใบด่างมันสำปะหลังเป็นโรคที่มีความรุนแรงมากเพราะสามารถทำลายผลผลิตของเกษตรกรได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์  ดังนั้นเพื่อป้องกันการเข้ามาแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว  กรมวิชาการเกษตรจะเข้มงวดการนำเข้ามันสำปะหลังบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และดำเนินการสำรวจโรคใบด่างมันสำปะหลังอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง  หากพบการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังจะดำเนินการตามแผนฉุกเฉินที่ได้กำหนดไว้ทันที   อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือให้ผู้ที่พบเห็นอาการของโรคใบด่างในมันสำปะหลังแจ้ง สายด่วนเฝ้าระวังโรคใบด่างมันสำปะหลัง กรมวิชาการเกษตร โทร. 0–2579–8516 หรือ 061–415–2517 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปดำเนินการสำรวจและปฏิบัติการตามแผนฉุกเฉินต่อไป  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว

โรคใบด่าง มันสำปะหลัง ที่ต้องทำลายแปลง
โรคใบด่าง มันสำปะหลัง ที่ต้องทำลายแปลง