อาหารหมู ที่ไม่หมูอย่างที่คิด ! จากเทคโนโลยีอาหารสัตว์ระดับโลก สู่การใช้จริงในบ้านเรา
ถ้าจะพูดถึงอาหารหมู ที่ผมบอกว่าไม่หมูอย่างที่คิด บางคนคงสงสัยว่าไม่หมูตรงไหน ซึ่งบทความนี้จะขออนุญาตบอกว่า กว่าจะมาเป็นอาหารแต่ละเม็ดที่หมูกินนั้น มีรายละเอียด มีเทคโนโลยี ที่คาร์กิลล์เราเองสะสมมากว่า 150 ปี มีที่มาอย่างไร ซึ่ง 150 ปีนี้ นับเป็น 2-3 ช่วงอายุคนเลยทีเดียวนะครับ สำหรับการออกแบบสูตรอาหารก็ไม่ได้เพียงแค่ให้ความสำคัญด้านสารอาหารเพียงอย่างเดียว แต่เราคำนึงถึงปัจจัยทั้งหมดที่มีส่วนสำคัญกับการเลี้ยงหมูด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการ โรค สายพันธุ์ อาหารหรือโปรแกรมการให้อาหาร ไม่เพียงเท่านั้น
ด้วย คาร์กิลล์ เป็นบริษัทระดับโลกที่มีสำนักงานกระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก มีเครือข่ายฐานข้อมูลในเรื่องต่างๆ มากมาย และอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ รวมถึง ณ ตอนนี้ เรามีการขยายกิจการทางด้านสารเสริมในอาหารสัตว์ระดับโลก
ดังนั้น จึงไม่ใช่แค่ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านอาหารสัตว์เพียงอย่างเดียว ยังรวมถึงสุดยอดเทคโนโลยีทางด้านสารเสริมอีกด้วย มาถึงจุดนี้ เริ่มสนใจกันรึยังครับ เดี๋ยวผมจะพาทุกท่านเข้าสู่โลกแห่งเทคโนโลยี สู่อาหารหมูที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันในบ้านเราครับ…
ก่อนที่เราจะออกแบบ หรือสร้างเป็น “อาหารหมู” ให้หมูๆ ทุกท่านได้กิน เราต้องหาความต้องการของแต่ละฟาร์มเสียก่อน ซึ่งแน่นอนครับ แต่ละฟาร์ม แต่ละภูมิภาค หรือแม้แต่ แต่ละช่วงสถานการณ์การตลาดในบ้านเรา จะแตกต่างกัน
โดยต้องพิจารณา 4 ปัจจัยหลัก อย่างที่ผมกล่าวไปตอนแรกที่ในการเลี้ยงหมู คือ การจัดการ โรค สายพันธุ์ อาหาร ซึ่งรวมถึงการให้อาหาร
เรื่องแรก คือ การจัดการ เราจะพิจารณาในเรื่องการจัดการด้านต่างๆ เสียก่อนไม่ว่าจะเป็น การจัดการเรื่องอุณหภูมิ ร้อนไป หนาวไป ซึ่งเราจะยึดที่อุณหภูมิที่หมูรู้สึกจริง โดยมองในมุมผลกระทบจากลม จากลักษณะพื้นหรือผนังต่างๆ ร่วมด้วย คุณภาพอากาศ ก็จะมองในเรื่องอากาศโดยรวม แอมโมเนีย ฝุ่น ความชื้นสัมพัทธ์ ซึ่งล้วนส่งผลต่อหมู คุณภาพน้ำ จะมอง 2 มุม คือ คุณภาพ และปริมาณที่เพียงพอ เหมาะสำหรับหมูแต่ละระยะหรือไม่ ลักษณะทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การเลี้ยง โรงเรือนปิด หรือ โรงเรือนเปิด พื้นที่ให้อาหาร โดยจะมีรายละเอียดลงไปในแต่ละเรื่อง
ซึ่งทางเรามีเทคโนโลยีในด้านนี้ที่ใช้กันทั่วโลก ที่เราเรียกว่า EAS; Environmental Appraisal System หรือ เทคโนโลยีคาร์กิลล์ ที่ใช้ประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อมในฟาร์มสุกร เพื่อเพิ่มผลกำไรจากการเลี้ยงสุกร
โรค หรือ สุขภาพ ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญของการเลี้ยงหมู ซึ่งเราจะมีทีมสุขภาพสัตว์ สัตวแพทย์ ที่ชำนาญการ ประจำในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้คำแนะนำ หรือช่วยเหลือ รวมถึงช่วยบริการเป็นสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์ม ตามความต้องการของแต่ละฟาร์ม ซึ่งเราก็จะนำข้อมูลเหล่านี้ประกอบในการออกแบบอาหารด้วยเช่นเดียวกัน
โดยอีกเรื่องที่เรามีบริการเพิ่มเติม คือ หลังจากที่บ้านเรากังวลเรื่องโรค เราได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านดิจิตอลที่จะช่วยฟาร์มประเมิน หรือตรวจสอบจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันเชื้อโรคที่อาจหลุดรอดมาจากประเด็นต่างๆ ที่ฟาร์มอาจมองข้าม ซึ่งเราก็มีเทคโนโลยี เรียกว่า Smart Advance ซึ่งมีการอัพเดทตลอดเวลาด้วยเช่นกัน
สายพันธุ์ ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ หากเรามองบ้านเราใน 5-10 ปีให้หลังนี้ มีการพัฒนาสายพันธุ์อย่างมาก สายพันธุ์มีความหลากหลาย และมีบริษัทที่ขายสายพันธุ์ในบ้านเราอยู่หลายบริษัท โดยสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นนั้นส่งผลโดยตรงในเรื่องประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น แม่พันธุ์ ก็ให้ลูกหมูที่มีจำนวนมากขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น น้ำหนักหย่านมที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้มีลูกต่อแม่ต่อปี ที่เขาเรียกว่า PSY (Pig/Sow/Year) ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และชัดเจน
หมูอนุบาล หมูขุน ก็เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็น อัตราการเติบโต (ADG) อัตราการแลกเนื้อ (FCR) ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน และต่อเนื่อง โดยเรื่องสายพันธุ์อย่างที่กล่าวไปช่วงแรก เรามีการร่วมมือกับบริษัทสายพันธุ์ ที่พัฒนาร่วมกันทางด้านสายพันธุ์และด้านโภชนาการ หรือด้านอาหาร ดังนั้น ฐานข้อมูลนี้ก็จะอัพเดทอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน
ส่วนเรื่อง อาหาร หรือ การให้อาหาร ซึ่งเป็นเรื่องหลักที่เรานำนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีมาประกอบใช้ โดยเราจะนำเรื่องทั้ง 3 ด้านบน มาประกอบรวมเป็นฐานข้อมูลหลัก แล้วนำข้อมูลเหล่านี้ มาประกอบกับข้อมูลทางวิชาการที่มาจากศูนย์นวัตกรรม ศูนย์วิจัยและพัฒนาที่กระจายอยู่ทั่วโลกมาประกอบกัน เป็นความต้องการของหมูในแต่ละระยะ
เสร็จแล้วเราจะมาเตรียมวัตถุดิบต่างๆ มาเปลี่ยนสารอาหารให้เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของคาร์กิลล์ ซึ่งสารอาหารนี้เราจะเรียกว่า CNS; Cargill Nutrient System เป็นระบบที่เราพัฒนามากว่า 150 ปี แล้วใช้เฉพาะของเราเอง โดยสารอาหารต่างๆ เราจะแปลงสารอาหารทุกด้านให้เป็น สารอาหารที่หมูใช้ประโยชน์ได้จริง พอได้ข้อมูลทั้งหมด แล้วก็จะประกอบเป็นอาหารสู่กระบวนการผลิตต่อไป
ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญในเรื่อง อาหาร ก็คือ การให้อาหาร โดยในส่วนของหมูอนุบาล และหมูขุนก็จะมีข้อแนะนำโปรแกรมอาหารให้เหมาะสมกับฟาร์ม หรือสถานการณ์ความต้องการของแต่ละฟาร์ม ส่วนหมูแม่พันธุ์ก็จะมีเทคโนโลยีโปรแกรมอาหารโดยเฉพาะ ซึ่งบางครั้งบางระยะเราอาจลดอาหารก็ได้ หรือบางระยะเราอาจต้องเพิ่มอาหาร เผลอๆ การใช้อาหารโดยรวมลดลงด้วยซ้ำไป แต่ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น ซึ่งนี่ก็คือเทคโนโลยีทางด้านโปรแกรมการให้อาหารที่เราพัฒนากัน
อย่างที่กล่าวไปฟาร์มหมูจะมีการเปลี่ยนแปลง พัฒนา หรือเคลื่อนที่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น สายพันธุ์ การจัดการ โรค…อาหาร ก็ต้องเคลื่อนไปด้วยเช่นกัน อาหาร ณ วันนี้อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับฟาร์มอีก 5-10 ปี ข้างหน้า แต่!!! เราเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว จากประสบการณ์กว่า 150 ปี ที่เราได้ร่วมมือกับบริษัทสายพันธุ์ต่างๆ ทั่วโลก การจัดการฟาร์ม ก็มีเครื่องไม้เครื่องมือ เทคโนโลยี เทคนิคต่างๆ โรคก็มีการพัฒนาฐานข้อมูลจากประสบการณ์ทั่วโลกเพื่อรองรับการดูแล รักษา อาหารก็มีฐานข้อมูลนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่อัพเดทตลอดเวลาของเราเอง…
มาถึงตรงนี้แล้วทุกท่านคงพอนึกออกนะครับ ว่ากว่าจะมาเป็นอาหารหมูที่เราใช้เลี้ยงหมูเป็นอย่างไรบ้างครับ ไม่หมูอย่างที่คิดใช่ไหมครับ
ครับ ตอนนี้ก็ใกล้ถึงปีใหม่แล้ว เราก็ขอถือโอกาสนี้อำนวยอวยพรให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขมากๆ นะครับ แล้วพบกันใหม่ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ.
บทความโดย: ทีมเทคโนโลยีและการตลาด บริษัท คาร์กิลล์สยาม จำกัด