ราคาสินค้าเกษตร ประจำสัปดาห์ วันที่ 1 – 5 ตุลาคม 2561
ราคาสุกร :สุกรราคาทรงตัว
สัปดาห์นี้ภาพรวมปริมาณสุกรที่เข้าสู่ตลาดคงที่ ด้านการบริโภคยังมีต่อเนื่อง ทำให้ราคาประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยืนราคาเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 61-67 บาทต่อกิโลกรัม
ด้านลูกสุกรขนาด 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาตัวละ 1,700 บาท (บวก/ลบ 60)
แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะยืนอ่อน
ไก่เนื้อ : ราคาทรงตัว
แม้ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาการบริโภคไก่เนื้อจะชะลอตัวจากภาวะฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง และโรงเรียนทยอยปิดภาคเรียน แต่ปริมาณไก่เนื้อในตลาดยังสมดุลกับการบริโภค ส่งผลให้ราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์มของสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อทรงตัวอยู่ที่กิโลกรัมละ 33 บาท
ส่วนลูกไก่เนื้อราคาลดลงจากตัวละ 11.50 บาท เป็นตัวละ 10.50 บาท ลูกไก่ไข่ยืนราคาที่ตัวละ 18.00 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะยืนอ่อน
ไข่ไก่ : ราคาทรงตัว
ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ในสัปดาห์นี้ ใกล้เคียงกับการบริโภคไข่ไก่ที่มีปริมาณลดลง ส่งผลให้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มจากการสำรวจทั่วไปในตลาดไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ฟองละ 2.50 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะยืนอ่อน
ข้าวโพด : ราคาเพิ่มขึ้น
จากภาวะฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ทำให้การเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชะลอตัวลง ส่งผลให้ผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดน้อยลงตามไปด้วย ขณะที่ปริมาณความต้องการใช้ผลผลิตยังใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่านมา ราคาข้าวโพด ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์สัปดาห์นี้จึงเพิ่มขึ้นจากจากหาบละ 531 บาท เป็นหาบละ 561 บาท
ด้านราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2561 รอบส่งมอบเดือนธันวาคม ราคาอยู่ที่ 364.75 เซนต์/บุชเชล เป็นราคาที่สูงขึ้น จากอุปสงค์การส่งออกที่ดีขึ้น ส่วนการเก็บเกี่ยวข้าวโพดของสหรัฐอเมริกาอาจชะลอตัวลง เนื่องจากจะมีฝนตกหนักในไม่กี่วันข้างหน้า กอปรกับราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยเสริม แนวโน้มราคาข้าวโพดต่างประเทศคาดว่าจะยืนแข็ง จากการที่เกษตรกรยังไม่ขายผลผลิตเพื่อรอราคา
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะยืนแข็ง
ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว
ในสัปดาห์นี้ราคากากถั่วเหลืองที่ได้จากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่กิโลกรัมละ 16.00 บาท
สำหรับราคากากถั่วเหลืองและเมล็ดถั่วเหลือง ตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2561 รอบส่งมอบเดือนตุลาคม ราคาที่ยืนแข็งที่ 307.50 เหรียญสหรัฐฯ/ชอร์ตตัน ส่วนเมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ราคาอยู่ที่ 814.00 เซนต์/บุชเชล เป็นราคาที่เพิ่มขึ้น แม้ข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอุปสรรคการค้าถั่วเหลืองระหว่าง 2 ประเทศ ยังไม่คลี่คลายก็ตาม แต่ภาวะฝนตกหนักในสหรัฐฯ ก็ส่งผลกระทบให้การเก็บเกี่ยวชะลอตัวลงและอาจส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิตด้วย ส่วนการปลูกถั่วเหลืองในบราซิลคืบหน้าเร็วกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย
แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองน่าจะยืนแข็ง
ปลาป่น : ราคาทรงตัว
สถานการณ์การจับปลาในสัปดาห์นี้ยังเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากสภาพอากาศที่มีคลื่นลมแรงในภาคใต้ ขณะที่สถานการณ์การส่งออกยังไม่ดีนัก เนื่องจากจีนซึ่งเป็นตลาดหลักอยู่ในช่วงวันชาติที่มีวันหยุดต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการของอาหารสัตว์มีแนวโน้มลดลง ทำให้ปริมาณผลผลิตสมดุลกับการใช้ ราคาปลาป่นโดยรวมในสัปดาห์นี้จึงเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปลาป่นเกรดกุ้งราคากิโลกรัมละ 50.00 บาท ปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 44.20 บาท และเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคากิโลกรัมละ 40.70 บาท
ส่วนปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 42.20 บาท และปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 ราคากิโลกรัมละ 38.70 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว
ข้าว : ราคาทรงตัว
ภาวะการซื้อขายข้าวต่างประเทศในสัปดาห์นี้ใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาข้าวโดยรวมทรงตัว โดยข้าว 100 % ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากตันละ 427 เหรียญสหรัฐฯ เป็นราคาตันละ 430 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากตันละ 355 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 356 เหรียญสหรัฐฯ
ด้านการซื้อขายข้าวตลาดในประเทศทรงตัว ข้าว 100% ชั้น 2 ยืนราคาที่กระสอบละ 1,250 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาทรงตัวที่กระสอบละ 1,010 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวในประเทศน่าจะทรงตัว
Facebook แฟนเพจ อะกรีพลัสนิวส์ดอทคอม