ราคาสินค้าเกษตร ประจำสัปดาห์ วันที่ 12 – 16 พฤศจิกายน 2561
สุกร : ราคาทรงตัว
สัปดาห์นี้ปริมาณสุกรที่เข้าสู่ตลาดเพียงพอกับการบริโภค ส่งผลให้ราคาประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 65-69 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้เทศกาลท่องเที่ยวเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนให้ปริมาณความต้องการบริโภคเนื้อสุกรดีอย่างต่อเนื่อง
ด้านลูกสุกรขนาด 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาตัวละ 1,800 บาท (บวก/ลบ 64)
แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะทรงตัว
ไก่เนื้อ : ราคาทรงตัว
จากเทศกาลงานบุญกฐิน รวมไปถึงการเปิดภาคเรียน และฤดูกาลท่องเที่ยว ส่งผลให้การบริโภคเนื้อไก่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไก่ใหญ่ที่คงค้างในฟาร์มลดลงสู่ภาวะสมดุลกับการบริโภค ราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์มของสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อจึงทรงตัวที่กิโลกรัมละ 33 บาท
ส่วนลูกไก่เนื้อและลูกไก่ไข่ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลูกไก่เนื้อยืนราคาที่ตัวละ 10.50 บาท และลูกไก่ไข่ราคาตัวละ 11 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะทรงตัว
ราคาไข่ไก่ : ราคาทรงตัว
ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อลดปริมาณไข่ไก่สะสมจากช่วงเทศกาลกินเจและช่วงปิดภาคเรียนที่ผ่านมาส่งผลให้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มจากการสำรวจทั่วไปในสัปดาห์นี้ ยืนราคาที่ฟองละ 2.50 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะยืนแข็ง
ข้าวโพด : ราคาลดลง
สัปดาห์นี้ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในเขตภาคเหนือและภาคอีสานออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ ราคาปรับลดลงจากราคาหาบละ 612 บาท เป็นหาบละ 606 บาท
ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโกประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รอบส่งมอบเดือนธันวาคม ราคาอ่อนตัวลงอยู่ที่ 366.50 เซนต์/บุชเชล เป็นผลมาจากการปรับตัวลงตามทิศทางราคาข้าวสาลีและน้ำมันดิบที่ดิ่งลง ขณะที่สต็อกข้าวโพดสหรัฐอเมริกามีปริมาณสูง เนื่องจากมีการเก็บเกี่ยวไปแล้ว 84% ด้านราคาเอทานอลลดลงตามราคาน้ำมันดิบเช่นกัน ส่งผลต่ออุปสงค์ข้าวโพดที่ใช้ผลิตเอทานอล ทำให้แนวโน้มราคาข้าวโพดตลาดต่างประเทศยืนอ่อน
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะยืนอ่อน
ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว
ราคากากถั่วเหลืองที่ได้จากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้ายังคงทรงตัวอยู่ที่กิโลกรัมละ 16.00 บาท แต่เนื่องจากปริมาณการผลิตมีมาก ประกอบกับจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้ากากถั่วหลักปรับลดการนำเข้ากากถั่วเหลือง เนื่องจากการเพิ่มภาษีนำเข้าฯ จึงเริ่มมีการเพิ่มปริมาณนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ทดแทนกากถั่วเหลือง ทำให้แนวโน้มราคากากถั่วลดลง
ส่วนราคากากถั่วเหลืองและเมล็ดถั่วเหลือง ตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 เมล็ดถั่วเหลืองรอบส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ราคาอยู่ที่ 867.25 เซนต์/บุชเชล เป็นราคาปรับลดลงเล็กน้อย เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลด แม้ว่าการส่งออกในสัปดาห์นี้จะดีขึ้น และผลผลิตมีปริมาณเพียงพอจากการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองสหรัฐฯ ที่เสร็จแล้ว 88% อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคายืนอ่อนเนื่องจากอเมริกาใต้จะมีผลผลิตของปี 2562 ออกมามากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยกับการเพาะปลูก อีกทั้งการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงต้องรอดูผลการเจรจาต่อไป ด้านกากถั่วเหลืองรอบส่งมอบเดือนธันวาคม ราคาลดลงเล็กน้อยเช่นกัน อยู่ที่ 303.90 เหรียญสหรัฐฯ/ชอร์ตตัน
แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองน่าจะลดลง
ปลาป่น : ราคาลดลง
ราคาปลาป่นโดยรวมในสัปดาห์นี้ปรับลดลง สืบเนื่องจากทางการเปรูประกาศโควต้าจับปลาทางเหนือ เป็นปริมาณ 2.1 ล้านตัน โดยจะเริ่มวันที่ 15 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ปริมาณการจับปลาทั้งหมดสำหรับปีนี้น่าจะมีกว่า 5 ล้านตัน (รอบแรก 3.1 ล้านตัน) นับว่าสูงสุดตั้งแต่ปี 2555 นอกจากนี้ผู้ประกอบการในประเทศผู้นำเข้า กำลังอยุ่ในช่วง low season จึงทำให้ออเดอร์การส่งออกมีไม่มากนัก โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 48.00 บาท ปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 42.20 บาท เป็นกิโลกรัมละ 40.20 บาท และเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน จากกิโลกรัมละ 38.70 บาท เป็นกิโลกรัมละ 36.70 บาท
ส่วนปลาป่นคุณภาพรองลงมาปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป จากราคากิโลกรัมละ 40.20 บาท เป็นราคากิโลกรัมละ 37.20 บาท และปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 จากราคากิโลกรัมละ 36.70 บาท เป็นกิโลกรัมละ 33.70 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะยืนอ่อน
ข้าว : ราคาทรงตัว
ราคาข้าวส่งออกในสัปดาห์นี้ทรงตัว โดยข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาอยู่ที่ตันละ 423 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาตันละ 356 เหรียญสหรัฐฯ
ด้านการซื้อขายข้าวตลาดในประเทศราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคากระสอบละ 1,250 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ราคาทรงตัวกระสอบละ 1,020 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวในประเทศน่าจะทรงตัว