ราคาสินค้าเกษตร ประจำสัปดาห์ วันที่ 24-28 กันยายน 2561
ราคาสินค้าเกษตร ประจำสัปดาห์ ราคาสุกร : ราคาลดลง
สัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีสภาวะฝนตกชุกหนาแน่น ส่งผลให้การบริโภคลดลง ทำให้ราคาประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา จาก ราคาสุกร 63-68 บาทต่อกิโลกรัม เป็นราคา 61-67 บาทต่อกิโลกรัม
ด้านลูกสุกรขนาด 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาตัวละ 1,700 บาท (บวก/ลบ 60)
แนวโน้ม : คาดว่า ราคาสุกร น่าจะยืนอ่อน
ไก่เนื้อ : ราคาลดลง
ผู้เลี้ยงไก่อิสระภาคใต้และภาคเหนือมีการเลี้ยงไก่เพิ่มมากขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กอปรกับยังมีปริมาณฝนตกชุก ทำให้การบริโภคชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ในตลาดจึงมีไก่ใหญ่สะสม ส่งผลให้ราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์มของสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อลดลงจากกิโลกรัมละ 34 บาท เป็นกิโลกรัมละ 33 บาท
ส่วนลูกไก่เนื้อราคาทรงตัวที่ตัวละ 11.50 บาท ลูกไก่ไข่ยืนราคาที่ตัวละ 18.00 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะยืนอ่อน
ไข่ไก่ : ราคาลดลง
สัปดาห์นี้เริ่มเข้าสู่ช่วงปิดภาคเรียนทำให้ความต้องการบริโภคไข่ไก่ลดลง ขณะที่ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ที่ออกสู่ท้องตลาดมีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มจากการสำรวจทั่วไปในตลาดลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา จากฟองละ 2.60 บาท เป็นฟองละ 2.50 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะยืนอ่อน
ข้าวโพด : ราคาทรงตัว
ในสัปดาห์นี้สภาวะอากาศดีขึ้น ทำให้ปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกสู่ท้องตลาดมากขึ้นเพียงพอต่อความต้องการของตลาด ส่งผลให้ราคาข้าวโพด ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ทรงตัวที่หาบละ 531 บาท
ด้านราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 26 กันยายน 2561 รอบส่งมอบเดือนธันวาคม ราคา 363.00 เซนต์/บุชเชล เป็นราคาที่สูงขึ้น จากการที่พ่อค้าในตลาดมองว่าราคาน่าจะผ่านช่วงต่ำสุดของฤดูกาลไปแล้ว ปัจจุบันเกษตรกรอยู่ระหว่างช่วงเก็บเกี่ยวโดยได้ทำการเก็บเกี่ยวไปแล้ว 16% ซึ่งปีนี้ข้าวโพดสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ระยะฝักแก่เร็วกว่าปกติ แต่เกษตรกรมีแนวโน้มเก็บผลผลิตรอราคา เนื่องจากอุปสงค์การส่งออกเริ่มดีขึ้น กอปรกับสหรัฐฯ มีปริมาณประชากรสัตว์มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทำให้อุปสงค์อาหารสัตว์ดีขึ้น แนวโน้มราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตลาดต่างประเทศคาดว่าน่าจะยืนแข็ง
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะทรงตัว
ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว
ราคากากถั่วเหลืองที่ได้จากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าในสัปดาห์นี้ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 16.00 บาท
สำหรับราคากากถั่วเหลืองและเมล็ดถั่วเหลือง ตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 26 กันยายน 2561 รอบส่งมอบเดือนตุลาคม ราคาอยู่ที่ 307.70 เหรียญสหรัฐฯ/ชอร์ตตัน ส่วนเมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ราคาอยู่ที่ 814.00 เซนต์/บุชเชล เป็นราคาที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากจีนหันไปซื้อผลผลิตจากอาร์เจนตินาและบราซิลมากขึ้น ในทางกลับกันอเมริกาใต้ก็หันกลับมาซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐฯ มากขึ้นทดแทนกัน สะท้อนช่องทางค้าขายที่ปรับเปลี่ยนเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า 25% ที่จีนเรียกเก็บโดยตรงจากถั่วเหลืองที่ส่งมาจากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นอีกระดับหนึ่ง ทำให้แนวโน้มราคาน่าจะยืนแข็ง โดยต้องรอดูรายงานสต๊อกถั่วเหลืองสหรัฐฯ ในเร็วๆ นี้ว่าจะเพิ่มขึ้นกว่าที่เคยคาดหมายหรือไม่ ปัจจุบันการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองสหรัฐฯ แล้ว 14% ส่วนบราซิลและอาร์เจนตินากำลังเข้าสู่ช่วงเพาะปลูกถั่วเหลืองฤดูใหม่ โดยสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก
แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองน่าจะยืนแข็ง
ปลาป่น : ราคาทรงตัว
การส่งออกปลาป่นในสัปดาหห์นี้ไม่คึกคัก เนื่องจากใกล้เทศกาลหยุดยาวของประเทศจีน อีกทั้งคลื่นลมในทะเลสูง ฝนฟ้าคะนอง ทำให้การจับปลายังคงทำได้ลำบาก แต่ปริมาณปลาป่นยังเพียงพอกับการใช้ โดยปลาป่นเกรดกุ้งราคากิโลกรัมละ 50.00 บาท ปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 44.20 บาท และเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคากิโลกรัมละ 40.70 บาท ส่วนปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 42.20 บาท และปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 ราคากิโลกรัมละ 38.70 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว
ข้าว : ราคาทรงตัว
ตลาดซื้อขายข้าวต่างประเทศในสัปดาห์นี้คึกคักขึ้น โดยข้าว 100 % ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากตันละ 427 เหรียญสหรัฐฯ เป็นราคาตันละ 430 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ลดลงจากตันละ 357 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 355 เหรียญสหรัฐฯ
ด้านการซื้อขายข้าวตลาดในประเทศทรงตัว ข้าว 100% ชั้น 2 ราคาทรงตัวที่กระสอบละ 1,250 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคากระสอบละ 1,010 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวในประเทศน่าจะทรงตัว